วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 3 - นี่คือโชคชะตา

(TL: ขอแก้ชื่อใหม่นะครับ ซูหลิน>เสวีย หลิน,หลี่ฉินเฟิง>ฉินเฟิงหลี่,หวังจิวเซี่ย>วั่นฉิว เสวีย)

"ราชาเสือโคร่ง แกจะหนีไปไหน? ไอบัดซบ"

ฉินเฟิงหลี่จู่ ๆ ก็ลืมตาพร้อมกับขึ้นลุกจากเตียงและชกมือของเขาไปข้างหน้าทันที

ตูม!

โต๊ะข้างหน้าของเขาแตกออกเป็นล้านชิ้นทันที

โต๊ะทำจากกระจกนิรภัยและทนทานต่อแรงกระแทก 250 กก. 

ฉินเฟิงหลี่มีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวเมื่อมองเห็นโต๊ะหัก 

เขาลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่ในทวีปหมาป่าอีกแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่หั่วเซี่ย

ราชาเสือโคร่งเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ใหญ่ที่สุดของเขา เขาฝันถึงการฆ่ามันในระหว่างที่เขานอนหลับ ตอนนี้ราชาเสือโคร่งได้แอบเดินทางมายังเมืองหั่วเซี่ยและจะต้องมีการต่อสู้เป็นตายกันแน่ระหว่างพวกเขา

"แดดที่ดีวันนี้" ฉินเฟิงหลี่เหล่ดวงตาของเขาและเหลือบดวงอาทิตย์พร้อมกับยิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกไปข้างนอกในขณะนั้นเสวียหลินกำลังรับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะอาหารเช้าของเธอเป็นของง่ายๆแค่นมแก้วเดียว

โดยปกติจะมีเป็นแม่บ้านจางที่อาศัยอยู่ในวิลล่าแต่เธอมีปัญหากับครอบครัวและขอหยุดไปไม่กี่วัน ดังนั้นจึงเหลือแต่เสวียหลินและเนื่องจากเธอทำอาหารไม่เป็น มีแต่ดื่มนมเท่านั้นที่เธอสามารถทำได้

ใบหน้าของเสวียหลินมีความละเอียดอ่อนและมีเสน่ห์ ริมฝีปากแดงของเธอดูกระปรี้กระเปร่าเล็กน้อย นมสีขาวไหลผ่านริมฝีปากของเธอเข้าไปในร่างกายของเธอ การดูนมดื่มของเธอเป็นความเพลิดเพลินที่แท้จริง

โครก

ท้องของหลี่ฉินเฟิงคร่ำครวญ เขาหิวอย่างเห็นได้ชัด เขาวิ่งไปที่ห้องครัวและไม่พบอะไรเลยเขาเปิดตู้เย็นแต่ก็ว่างเปล่า

มีเพียงนมหนุ่งแก้วแต่มันมันถูกดื่มโดยเสวียหลินไปแล้ว

เมื่อไม่มีแม่บ้านจึงไม่มีใครซื้อของกินเอาไว้

ฉินเฟิงหลี่เตรียมออกไปหาอะไรกินแต่เมื่อเขาจับกระเป๋าของเขาความอึดอัดถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเขา

เนื่องจากเขาต้องรีบกลับมาเมืองหั่วเซี่ยเขาไม่ได้พกแม้แต่บาทเดียวเขาขึ้นเครื่องบินโดยไม่มีการเตรียมการ

"อืม...ที่รัก, ฉันสามารถ...ยืมเงินจากคุณได้หรือไม่?" หลี่ฉินเฟิงลูบจมูกกับเขินเล็กน้อย

ความจริงมันเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจที่จะยืมเงินจากผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเป็นภรรยาของเขา

"คุณกินอาหารของฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของฉันและฉันต้องยังจ่ายเงินอีก 20 หยวนสำหรับค่าการจดทะเบียนสมรสของเรา คุณยังจะถามถึงฉันสำหรับเรื่องเงินอีก?"

เสวียหลินขมวดคิ้วและจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ ฉินเฟิงหลี่ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยประหลาดใจ

คุณเป็นทายาทของครอบครัวหลี่...ครอบครัวของคุณมีมากกว่าแสนล้านแต่คุณถามฉันเพื่อขอเงิน? ไม่น่าหัวเราะหน่อยเหรอ?

"ที่รักคุณช่วยให้ผมยืม 100 หยวน และผมจะคืนคุณเมื่อกลับมาในวันพรุ่งนี้ 200 หยวน"

เพื่อหลีกเลี่ยงความอดอยากฉินเฟิงหลี่สามารถพยายมพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว [ประสบสอพลอ 55555]

และใช่. ครอบครัวหลี่มีทุนการจดทะเบียนนับร้อยล้าน แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้เป็นของฉินเฟิงหลี่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลย

วันนี้เขาขอให้ยืมเงินจากเสวียหลินเพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น

บางครั้งก็ต้องยอมจำนนต่อสถานการณ์ เงินอาจเป็นฮีโร่ของเขาตอนนี้

ฉันจะไม่ให้เงินคุณแม้แต่หยวนเดียว หากคุณต้องการเงินไปหางานทำ." เสวียหลินมองไปที่เขาอย่างเย็นชาจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไป

เธอไม่มีความเคารพต่อคนขี้เกียจเช่นนี้ที่ไม่มีแม้แต่แรงบันดาลใจ

เธอยังคงต้องทำงานและไม่มีเวลาสำหรับผู้ชายคนนี้

เฮ้อ ในฐานะราชาหมาป่าในตำนาน ถูกผู้หญิงคนหนึ่งดูถูกฉินเฟิงหลี่รู้สึกหดหู่ใจ

ผู้คนจะเติบโตอย่างไร เมื่อต้องอดตาย ?

ก็แค่ไปหางานทำ

ฉินเฟิงหลี่ใส่เสื้อผ้า Camo ของเขาและเดินออกไปข้างนอก

"มันยากมากที่จะหางานทำ!!" หลี่ฉินเฟิงไปเพียงไม่กี่บริษัทแต่ถูกปฏิเสธโดยทั้งหมด

อีสเทิร์นซีซิตี้  เป็นเมืองระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ดีและมีประชากรสูง และมีหลายบริษัทในเมือง

แต่กระบวนการจ้างงานของบริษัทเหล่านี้มีความเข้มงวดมาก พวกเขาต้องการปริญญาเอก หรือปริญญาโทหรือแม้แต่ปริญญาตรีในระดับต่ำสุด

ในที่สุดเขาก็พบบริษัทที่ไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญา แต่เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการผู้สมัครมีประสบการณ์การทำงาน 3 ปีหรืออย่างน้อยหนึ่งปี

ฉินเฟิงหลี่ลองไปที่บริษัทถึง 12 แห่ง แต่ไม่สำเร็จเลยสักแห่งพวกเขาไม่ตอบรับเลย

ถ้าทุกคนในสมาชิกเขี้ยวหมาป่า รู้ว่าฉันไม่สามารถหางานได้จะถูกหัวเราะเยาะแน่ๆ ขอบคุณพระเจ้าไม่มีใครเห็นฉัน เขารู้สึกดีใจในใจ

"เหี้ยย มันร้อนมาก" ภายใต้ดวงอาทิตย์แผดจ้าฉินเฟิงหลี่ยังคงค้นหางานบนท้องถนน

เขาไม่ได้ยังกินข้าวเช้า ถ้าเขาหางานไม่ได้เขาก็ไม่สามารถทานอาหารกลางวันได้เช่นกัน

ฉินเฟิงหลี่พึมพำกับตัวเองและเดินไปตามถนน

[รับสมัครพนักงานขายไม่จำกัดเพศ ระหว่างอายุ 20-40 ปีมีสุขภาพดีและดูดี บริการอาหารให้ฟรีและที่อยู่อาศัยพร้อมประกันและรวมถึงวันหยุด.]

ดวงตาของฉินเฟิงหลี่สว่างขึ้นเขาเห็นโฆษณาภายใต้อาคารสูง 20 ชั้น

โฆษณาถูกโพสต์โดยไอซ์สโนว์คอร์ปอเรชั่น นั่นเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในเมืองอีสเทิร์นซีมีมูลค่าไม่กี่ร้อยล้านหยวนและพวกเขามีสวัสดิการและค่าตอบแทนที่ดี

ลองดูอีกครั้งกับบริษัทนี้

หลี่ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินเข้าไปที่อาคาร

เขาได้เห็นโฆษณาที่บริษัทไอซ์สโนว์คอร์ปอเรชั่นประกาศไว้ให้ขึ้นไปที่ชั้นหนึ่งถึงชั้นที่สามของอาคาร ชั้นอื่น ๆ ถูกดูแลโดยบริษัทอื่น

หี่ฉินเฟิงเดินได้เพียงเจ็ดถึงแปดเมตรและพบคนสิบคนกว่าหรือมากกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาสมัครงาน

ผู้สมัครงานทุกคนต้องกรอกแบบฟอร์มแล้วรอเข้าห้องสัมภาษณ์

เขาเขียนแบบฟอร์มและเขียนชื่อที่อยู่อายุความสูงและข้อมูลพื้นฐานอื่น ๆ

"เพื่อน, นายมาที่นี่เพื่อตามจีบเสวียหลิน?" ผู้ชายอ้วนที่อยู่ข้างหลังเขาจู่ ๆ ก็ตบลงบนไหล่ฉินนเฟิงหลี่และพูดกับเขาขณะที่กำลังขยิบตาให้

"นายหมายถึงอะไร?"

ฉินเฟิงหลี่ขมวดคิ้วและถามด้วยความสับสน

"เพื่อน, หยุดทำท่าทางแบบนั้นเสวียหลินเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของอีสเทิร์นซีซิตี้ ส่วนใหญ่ผู้สมัครที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็เพราะเธอ นายไม่เหมือนกันหรือไง"

คนอ้วนกำลังมองเขาด้วยความรังเกียจเขาคิดว่าฉินเฟิงหลี่กำลังพูดโกหก

ฮิฮิ..

หลี่ฉินเฟิงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรเสวียหลินเป็นภรรยาของเขา ทำไมเขาต้องการจีบเธอ?

แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่างานที่เขากำลังมองหานั้นเป็นของบริษัทภรรยาของเขา

ศัตรูมักจะเดินบนหนทางที่คับแคบ

ฉินเฟิงหลี่ขมวดคิ้วและอยากจะออกไปเขาไม่ต้องการทำงานในบริษัทภรรยาของเขามันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจมากถ้าเกิดเจอกัน

"ต่อไปหมายเลข 19,ฉินเฟิงหลี่!"

ฉินเฟิงหลี่กำลังจะจากไปและเมื่อได้ยินเสียงหวานใส

เมื่อตอนที่เขากำลังคุยกับผู้ชายอ้วน สิบคนแรกก็ได้สัมภาษณ์เสร็จแล้วตอนนี้ถึงคราวเขาแล้ว

"หยุดทำเสียเวลาแล้วรีบเข้ามา!"

สาวสวยผลักหลี่ฉินเฟิงเข้าไปในห้องสัมภาษณ์

เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องเขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ เขาเงยศีรษะขึ้นและเห็นสาวสวยที่มีผมยาวดูคุ้นตาเขาดูตกใจมาก

"เป็นคุณนั้นเอง." ทั้งสองกล่าวพร้อมกัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความสับสน

สาวงามผมยาวคือวั่นฉิวเสวีย

นี้อาจเป็นโชคชะตา?

ใบหน้าของวั่นฉิว เสวียแดงก่ำดูน่ารักและมีประกายสีแดงปรากฏขึ้นมาจากดวงตาเธอ

ตอนแรกเธอคิดว่าทั้งสองคนจะไม่เจอกันอีกครั้ง และเธอไม่ได้คาดหวังจะได้พบกันอีกเร็วๆนี้ มันเหมือนกับว่ามันถูกเขียนโดยโชคชะตา

แต่เมื่อเธอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนรถเมล์เธอก็ยังอายและหัวใจเต้นเร็วขึ้น เธอดูสับสันมากและเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นที่เพิ่งเคยตกหลุมรัก

เธอรู้สึกประทับใจกับชายหนุ่มที่หน้าเธอ

"คุณเป็นผู้สมัครงาน?" วั่นฉิวเสวียหายใจเข้าและพยายามหยุดความวุ่นวายในใจ เธอเอ่ยปากและถาม

"ใช่คุณเป็นผู้สัมภาษณ์ที่นี่?

"ถูกต้องแล้วฉันวั่นฉิวเสวียเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย เพราะงั้นจึงเป็นผู้รับผิดชอบกระบวนการจ้างงานสำหรับฝ่ายขาย"

"โอ้"

ฉินเฟิงหลี่พยักหน้าและเข้าใจทันที

เขาจำชื่อบนการ์ดได้ วั่นฉิวเสวียที่ให้เขาบนรถเมล์ ชื่อที่เขียนคือ ผู้อำนวยการฝ่ายขายไอซ์สโนว์คอร์ปอเรชั่นเขาลืมรายละเอียดที่สำคัญเช่นนี้เลย